วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ข้อคิดจากการอยู่เวรจุดรับผิดชอบ

           นักเรียนชั้นป.3/1 วิ่งด้วยความดีใจเมื่อเห็นคุณพ่อมารับกลับบ้าน ระหว่างทางเด็กชายคนนี้ลื่นล้มสดุดก้อนหิน ทำให้ล้มหน้าทิ่มลงไปกับพื้นดินทราย ผลที่เกิดขึ้น เด็กคนนี้หน้าผากกระแทกกับก้อนหินเลือดไหลเต็มหน้า หน้าผากเป็นรูเจาะลึกลงไปจนเห็นกระดูก จากนั้นคุณพ่อหยิบเสื้อตัวเองมาซับเลือดและดิฉันครูเวรจึงพาไปส่งโรงพยาบาล ปรากฎว่าเย็บ3เข็ม แผลกว้าง1.5เซนติเมตร ลึก 0.5 เซนติเมตร จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทราบว่า อุบัติเหตุเกิดได้ทุกที่ทุกเวลาต่อให้ระมัดระวังเราก็ไม่สามารถกำหนดได้เลยว่าจะเกิดอุบัติเหตุหรือไม่และผลที่เกิดขึ้นจะเป็นเช่นไร แต่สิ่งหนึ่งที่รับรู้และสัมผัสได้คือ คุณพ่อรักและห่วงใยลูกเสมอ # รักและคิดถึงป๊าเสมอ # ป๊า(คุณพ่อ)เสียชีวิตไปแล้ว

วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ข้อเรียนรู้ในการปฏิบัติงาน

@วันที่น้ำประปาไม่ไหล@

              วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2559 ในวันนี้นักเรียนไม่ได้มาโรงเรียนเนื่องจากน้ำประปาไม่ไหลเพราะท่อประปาระเบิด แต่ครูต้องมาทำงานทั้งที่น้ำประปาไม่ไหลและครูทั้งโรงเรียนประมาณ80กว่าคน น้ำไม่เพียงพอในการใช้อุปโภค ผู้อำนวยการไม่อยู่ไปอบรมที่หาดเจ้าสำราญ ผู้จัดการรักษาการแทน แต่จะทำอะไรต้องขออนุญาติทุกอย่างแม้กระทั่งไปเข้าห้องน้ำในปั๊มปตท. อาหาร ขนม หรือร้านค้าในโรงเรียนก็ไม่มีเนื่องจากโรงเรียนเป็นผู้จัดจำหน่ายมีแค่ต้มจับฉ่ายที่แม่ครัวเตรียมไว้แล้วเท่านั้น วันนี้ที่โรงเรียนของหลานมีการประชุมผู้ปกครองดิฉันจะลาก็ไม่ได้เพราะจะกลายเป็นหนีงานไปอีกค่ะ ทำได้เพียงโทรไปแจ้งครูประชั้นให้มีอะไรแจ้งผ่านLineฝากข้อความไว้ ทำได้เพียงเท่านี้จริงๆค่ะ # แค่อยากระบาย 

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2559

สายลมแห่งการให้อภัยและก้อนหินแห่งความทรงจำ

สายลมแห่งการให้อภัยและก้อนหินแห่งความทรงจำ



                 มีคน 2 คนเป็นเพื่อนรักกันมาก ร่วมเดินทางไปในทะเลทราย… ระหว่างทาง เกิดมีปากเสียงกันรุนแรงทะเลาะกัน เพื่อนคนหนึ่งระงับอารมณ์ไม่อยู่…ตบหน้าอีกฝ่าย เพื่อนที่ถูกทำร้าย….เจ็บปวด…แต่ไม่เอ่ยวาจา… กลับเขียนข้อความลงบนผืนทรายว่า “วันนี้…ฉันถูกเพื่อนรักตบหน้า”  พวกเขายังคงเดินทางต่อไป…จนกระทั่งถึงแหล่งน้ำ พวกเขาก็อาบน้ำ….เพื่อนคนที่เคยถูกตบหน้า ได้พลัดตกแหล่งน้ำ จมน้ำ เพื่อนอีกคนไม่รอช้า รีบลงไปช่วยทันที คนรอดตาย…ยังคงไม่เอ่ยวาจา…กลับสลักข้อความลงไปบนก้อนหินใหญ่…“วันนี้…เพื่อนรักช่วยชีวิตฉันไว้” อีกคนไม่เข้าใจ…เลยถามว่า “เมื่อเธอถูกฉันตบหน้า เธอเขียนเรื่องราวลงพื้นทราย แล้วเรื่องที่ฉันได้ช่วยเธอจากการจมน้ำ ทำไมจึงต้องสลักบนก้อนหิน”อีกคนยิ้มพราย…กล่าวตอบ เมื่อถูกคนที่รักทำร้าย…เราควรเขียนมันไว้บนพื้นทราย ซึ่ง “สายลมแห่งการให้อภัย” จะทำหน้าที่พัดผ่าน ลบล้างไม่เหลือ” แต่เมื่อมีสิ่งที่ดีมากมายเกิดขึ้น เราควรสลักไว้บน “ก้อนหินแห่งความทรงจำในหัวใจ” ซึ่งต่อให้มีสายลมพัดแรงเพียงใด ก็ไม่อาจ ลบล้าง ทำลาย

วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บทความดีๆ

*-* บทความดีๆ*-*




             อาจารย์คนนึง เริ่มการสนทนาในชั้นเรียนด้วยการควักธนบัตรใบละ 1,000 บาท ..ออกมาให้นักศึกษาดู แล้วถามว่า “มีใครอยากได้บ้างไหม” ทุกคนรีบยกมือ \(^o^”)a อาจารย์ขยำธนบัตรนั้น “จบยับยู้ยี่” .. แล้วถามอีกครั้งว่า “มีใครยังอยากได้ธนบัตรใบนี้อีกหรือไม่”.. ทุกคนยังยกมือขึ้นเหมือนเดิม .. \(^_^)/… อาจารย์ถามต่ออีกว่า “ถ้าสมมุติว่า ธนบัตรใบนี้ถูกทิ้งอยู่บนพื้น แล้วมีคนมาเหยียบย่ำจนสกปรก ยังจะมีใครอยากได้อีกหรือไม่” .. นักศึกษาทุกคน ก็ตอบว่ายังอยากได้ …..อาจารย์จึงกล่าวสรุปว่า ..“นั้นคือสิ่งมีค่า” ที่พวกเธอได้เรียนรู้ในวันนี้! .. ไม่ว่าจะเธอจะทำอะไรกับธนบัตรใบนี้ มันก็ยังคงจะมีราคา 1,000 บาท อยู่เสมอ .. ชีวิตคนเราก็เช่นเดียวกันบางครั้ง เราอาจจะถูกทอดทิ้ง ถูกใครต่อใคร ซ้ำเติม, เหยีบย่ำ, ถูกขยี้, ยับเยิน, ..เพราะความผิดพลาดในการก้าวเดินของชีวิต จนทำให้เกิดความรู้สึกว่าตนเอง “ไร้ค่า”แต่ รู้มั้ย?.. ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็ยังมี “คุณค่าของความเป็นคน” ..ไม่ว่าเธอจะสะอาดเอี่ยม หรือว่า ยับยู้ยี่ .. “ตัวเราก็ยังมีค่าที่สุดเสมอ” จำไว้ ^^